ทักทายกันหน่อยจ้ะ |
|
กันเกรา ธัญรัตน์ วรนัน มีเว็บไซด์เป็นของตัวเองแล้วจ้ะ ด้วยความตั้งใจที่จะให้เป็น Landmark ที่เพื่อน ๆ จะเข้ามาพบกันได้ โดยไม่ต้องกลัวว่างานของกันเกรา ธัญรัตน์ วรนัน ที่ไปใช้พื้นที่ของเว็บต่างๆ จะอันตรธานหายไปด้วยความไม่แน่ไม่นอนของโลก Cyber เพราะไปฝากเขาไว้ฟรี ๆ ตอนนี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้อน ที่จะต้องพยายามรวมรวมผลงานที่ไปวางไว้ตาม web ต่างๆ ทั้งทำสำเนาไว้ใน web ตัวเอง และทำ Link ไปหาผลงานที่ฝากไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เพื่อน ๆ เข้าที่ web : www.kankrao.net แล้วกด Link ไปหาเว็บนิยายและเว็บอื่นๆได้ กันเกรา ธัญรัตน์ วรนัน ขอบคุณเพื่อนๆ อย่างมากอีกครั้งที่แวะมาเยี่ยมและคิดว่าเพื่อนๆ คงจะเข้ามาอีกเป็นครั้งต่อ ๆ ไปนะจะ....
|
ขึ้นชื่อว่า “รักแรก” คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า มันสร้างความสุข สดชื่น หอมหวาน และอบอุ่นหัวใจให้กับคนที่มี “รัก” มากแค่ไหน และความรู้สึกเหล่านี้ยิ่งจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ หาก “รักแรก” นั้นลงท้ายด้วยความสมหวัง แต่สำหรับ “รักแรก” ของ “เทียมหทัย” หรือ “ขิม” แล้ว เธอต้องพบกับความเจ็บปวด รวดร้าว และต้องทนทุกข์ ทรมาณแทบหัวใจสลาย กับการที่ได้พบกับ “รักแรก” แล้วมันก็เปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว กับการที่จะเริ่มเปิดใจรักใครสักคน ด้วยเพราะรู้ดีว่า หัวใจของตัวเองคงไม่อาจจะทนรับกับความเจ็บปวดได้อีกแล้ว แต่แล้วเธอก็ต้องตกหลุมรักและมอบหัวใจให้กับเขา โดยที่เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่ารักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ และเธอก็ไม่อาจจะรู้ได้ ว่าเขานั้นมีความรู้สึกกับเธอเช่นไร เพราะเขาเฝ้าแต่จะคอยมอบความเกลียดชังให้เธออยู่เป็นนิจ “เก็บดวงใจไว้ให้เธอ" คือนวนิยายที่ผู้เขียน อยากจะถ่ายทอดความเจ็บปวด รวดร้าว จากการผิดหวังในรัก ที่มนุษย์เราๆ ท่านๆ ต้องเผชิญมาด้วยกันแล้วทั้งนั้น และหลายๆ คน ต่างประจักษุ์ดีกว่า กว่าที่เราจะพบใครสักคน และได้มอบหัวใจให้นั้น มันช่างยากเย็นแสนเข็นแค่ไหน และที่ยากยิ่งกว่า คือการที่จะลบใครสักคนให้ออกไปจากความทรงจำส่วนลึกในหัวใจ บางท่านอาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน หรือกี่เดือน หรือกี่ปี แต่สำหรับบางท่าน อาจจะต้องใช้เวลาเป็นสิบปี หรืออาจจะตลอดชีวิตก็เป็นได้
|
|
|
ขึ้นชื่อว่า ‘รัก’ หากแม้บังเกิดขึ้นกับใครแล้ว ย่อมมีทั้ง ‘สุข หรือ ทุกข์’ ตามติดมาด้วยแทบทั้งสิ้น ผิดแต่เพียงว่า หนทางแห่งรักของใครจะจบลงแบบไหนเท่านั้น บ้างก็พบกับความสุข หากต้นรักที่ร่วมกันปลูกเจริญเติบโต งอกงามจนสามารถผลิดอกออกผล กระทั่ง นำพาให้ชีวิตคู่ดำเนินไป อย่างไร้ซึ่งอุปสรรค หรือหากแม้นมี ความรัก ก็ย่อมนำพาสองชีวิตดำเนินไปจนถึงจุดหมายปลายทางแห่งฝันได้ บ้างก็พบกับความทุกข์แสนสาหัส หากต้นรักที่ร่วมกันปลูกต้องมีอันดับสิ้นลง จะด้วยเพราะขาดการรดน้ำ พรวนดิน หรือขาดการเอาใจใส่ ไม่เหลียวแล ไม่สนใจ ไม่ใยดี ก็ล้วนแล้วจะนำมาซึ่งความทุกข์ทั้งสิ้น สำหรับคนบางคน การที่ต้องพบกับความรักที่ไม่สมหวัง อาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ราตรีกาล เพื่อเยี่ยวยารักษาแผลใจให้หายเป็นปกติ และพร้อมรับคนใหม่เข้ามาได้แล้ว แต่สำหรับบางคน ไม่ว่าวันเวลาจะเนิ่นนานสักเพียงไหน ก็ไม่อาจเยียวยาหัวใจที่พินพังจากรักได้เลยด้วยซ้ำ เฉกเช่น ‘อนวัช หรือ เก้า’ ผู้ที่พบกับจุดจบแห่งรักด้วยความปวดร้าว จนเขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะเสี่ยงรักใครได้อีกแล้ว เพราะได้ตระหนักว่า ผู้หญิงดีๆ ไม่มีหลงเหลือสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว จึงเป็นเหตุให้เขาถึงกับปิดประตูหัวใจตัวเองไว้ให้ห่างจากรัก แต่ไม่ว่าเขาจะหลบหนีจากรักสักแค่ไหน หัวใจของเขาฤาไร้ซึ่งรักได้ เพราะ ‘กันตา หรือ หวาย’ คือคนที่เดินเข้ามาเปิดประตูหัวใจของเขาออก ให้รับกับรักครั้งใหม่ ที่อาจจะเริ่มต้นด้วยความข่มขื่น แต่ก็ดำเนินชีวิตรักไปได้ด้วยความสุข สดชื่น หอมหวาน หากท้ายที่สุด ความรักของเขาและเธอกลับแปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ตรงกันข้าม
|
|
งานเขียน เมื่อเริ่มลงมือเขียนก็มีอุปสรรคตามติดมาเช่น การกำหนดตัวละคร ตลอดจนเสื้อผ้า หน้าผม ว่าจะให้ออกมาแบบไหน ปวดหัวเหมือนกันค่ะ
อุปสรรคอีกอย่างของการเขียนก็คือ ที่เกิดการขัดแย้งในใจว่า พ่อของระพีพรรณช่างร้ายเหลือ จะให้นายดำกลับมาแก้แค้นคืนยังไงจึงจะสาสม และจะต้องดำเนินออกมาในรูปไหน ที่จะไม่ให้โครงเรื่องไปซ้ำเรื่องอื่น และในเมื่อนายดำทำเรื่องไว้ซะมากมายกับเพลงขนาดนี้ จะลงเอยกันได้ยังไง จะทำยังไงให้ท่านผู้อ่านเชื่อโดยไม่รู้สึกขัดแย้ง เดือดร้อนต้องไปตามถามเพื่อน ๆ และคนใกล้ตัวหลายต่อหลายท่าน ถึงไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แต่ก็มองเห็นตอนจบของเรื่องนี้แล้ว เกือบครึ่งปีสำหรับการสรรสร้างผลงานชิ้นนี้ ให้ออกมาสู่สายตาท่านผู้อ่าน ขอขอบคุณทุก ๆ ความร่วมมือจากหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัว บรรณาธิการ ตลอดจนเพื่อนพ้อง เพื่อนนักเขียน และที่สำคัญยิ่งขอขอบคุณ คุณ ๆ ผู้ท่านที่เป็นแรงใจให้ด้วยดีเสมอมา
|
|
นับตั้งแต่ได้ดูละครเกาหลีเรื่อง Full House แล้วก็ประทับใจ เพราะเป็นละครที่ทำออกมาได้ดีมาก และดังมาก โดยไม่ต้องมีตัวอิจฉาตบตีกันเหมือนละคนบ้านเราเลย และต่อมาก็ได้ดูละครเรื่องอะไรจำไม่ได้แล้ว แต่นางเอกต้องไปทำไร่องุ่นกับตาและได้พบพระเอกอยู่ตรงไร่นั้น
จึงเกิดแรงบันดาลใจให้อยากเขียนนิยายในลักษณะนี้ขึ้นมาสักเรื่อง นั่งคิดอยู่นานมากว่าจะเอาอาชีพอะไรจึงจะเหมาะกับคนไทย คิดไปคิดมาก็เลยมาลงที่การปลูกข้าว ซึ่งเป็นหัวใจหลักของประเทศไทยเลย “ร้อยรวงใจ” จึงถูกสรรสร้างขึ้นมาในที่สุด และด้วยความที่ตัวเองเป็นคนอีสาน ได้มีโอกาสสัมผัสกับชีวิตชาวนามาบ้าง แม้ไม่นานแต่ก็ชื่นชอบมากกับการดำรงชีวิตแบบนั้น แถมขนบธรรมเนียมประเพณีหลายๆ อย่างทางภาคอีสานก็มีเสน่ห์ชวนให้คิดถึงไม่วาย จนธัญญรัตน์อยากย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กๆ แบบนั้นอีกสักครั้งเลยทีเดียว “ร้อยรวงใจ” จึงเป็นนิยายที่ธัญญรัตน์ดึงเอาวิธีการทำนาตั้งแต่เริ่มต้นเตรียมดิน ไปจนกระทั่งได้เม็ดข้าวออกมาเลย และยังสอดแทรกประเพณีงานบุญต่างๆ ตั้งแต่ บุญเดือนอ้าย ถึงเดือนสิบสองเข้าไปไว้ได้กัน บวกกับดึงเอาวิถีชีวิตของคนชนบทว่ากินอยู่อย่างไรรวมอยู่ด้วย ผ่านตัวละคร ภรัณญา หรือน้องข้าว กับ เขมินทร์ หรือน้าน้ำ ให้เดินเรื่องไปอย่างสนุกสนานตั้งแต่ต้นเรื่องจนกระทั่งจบ ธัญญรัตน์ ปรารถนาอย่างยิ่งว่า “ร้อยรวยใจ” จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจ ให้หนุ่มสาวที่หนีท้องทุ่งนาเข้ามาสู่เมือง ได้กลับไปขบคิด และผันตัวเองกลับไปหาวิถีชีวิตแบบนั้นอีกครั้ง |